วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เอลซ่า สการ์เล็ต

      
          จอมเวทย์สาวสวมชุดเกราะ หนึ่งในห้าจอมเวทย์ระดับ S Class เอลซ่าผ่านการสอบเป็นจอมเวทย์ระดับ S โดยที่อายุน้อยที่สุด ฉายาไททาเนีย เอลซ่า (Titania) เธอขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้หญิงสุดแกร่งของแฟรี่เทล เธอสามารถเปลี่ยนชุดเกราะได้อย่างรวดเร็วในทุก ๆ เวลาที่ต้องการใช้ เป็นคนนิสัยจริงจัง เข้มงวด ไหวพริบสูง และมีความหลักแหลมมากในการวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ เวลาเธอโกรธนั้นน่ากลัวทีเดียว แต่ก็เป็นคนอ่อนไหวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หากเพื่อเพื่อนพ้องและทุก ๆ คนที่เขารักแล้ว ยอมตายยังได้ เอลซ่ายังเป็นคนคอยดูแล คอยห้ามปรามนัตสึกับเกรย์มาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากทั้งคู่ชอบทะเลาะกันบ่อยๆ แต่เอลซ่าเองก็กลับไปทะเลาะกับมิร่าเจนบ่อยๆ ในสมัยเด็ก โดยเอลซ่านั้นมีใจให้เจราล พอแฟรี่เทลถูกยุบ เอลซ่าได้ทำการสืบเรื่องอวตารโดยได้รับความช่วยเหลือจากเจราลแต่ว่าพอพบเกรย์อีกครั้งจึงขอร้องให้เกรย์ช่วยทำงานเป็นสปาย โดยกำชับว่าห้ามบอกจูเบีย พอพวกนัตสึไปทำให้แผนของเกรย์ล้มเหลว เอลซ่าจึงไปจัดการกับอวตารที่ทัพหลังเพื่อไปรวมตัวกับพวกนัตสึ จากนั้นก็แยกตัวไปรวบรวมแฟรี่เทล

          ความจริงของเอลซ่าเกี่ยวกับแม่ผู้ให้กำเนิดเธอนั้น ได้ปรากฏขึ้นในมังงะ ตอนที่เหล่าแฟรี่เทลได้ทำศึกกับนักรบแห่ง 12 สปริกกัน โดยมีจอมเวทย์มนตร์ดำ เซเรฟ เป็นเป็นผู้นำทัพ ซึ่งแม่ผู้ให้กำเนิดเธอนั้น คือ ไอลีน เบลเชเรี่ยน หนึ่งใน 12 สปริกกัน ผู้ที่จงรักภักดีต่อเซเรฟ โดยไอลีนนั้น คาดว่ามีอายุประมาณ 400 ปี เพราะในอดีต เธอเป็นองค์หญิงที่อยู่ในยุคที่มนุษย์และมังกรอยู่ร่วมกัน ซึ่งพ่อของเอลซ่าคือนายพลจากประเทศเพื่อนบ้าน ไอลีนคือผู้ที่คิดค้นเวทย์ปราบมังกร หรือที่รู้จักกันว่า ดรากอนสเลเยอร์ โดยเธอเองนั้นได้บรรลุขั้นสูงสุดของการเป็นดรากอนสเลเยอร์ ร่างกายของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นมังกร เธอจึงถูกขับออกจากเมือง ซึ่งขณะนั้นเองเธอได้ตั้งท้องเอลซ่าเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่เธอจะกลายเป็นมังกรอย่างสมบูรณ์ กระทั่งผ่านไปร้อยกว่าปี เอลซ่าก็ยังคงอยู่ในท้องของแม่เธอที่กลายเป็นมังกร จนกระทั่งจอมเวทย์มนตร์ดำเซเรฟมาพบและร่ายเวทย์ให้เธอมีร่างกายเป็นมนุษย์ เธอได้ให้กำเนิดเอลซ่า และเธอได้ทิ้งเอลซ่าไว้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่เคยใยดีเลย


ชุดเกราะและอาวุธของเอลซ่า สการ์เล็ต






Heart Kreuz Armorเป็นชุดเกราะปกติที่เอลซ่าสวมเป็นประจำ และเป็นชื่อแบรนด์ของชุดเกราะด้วย สามารถสับเปลี่ยนศาตรา เปลี่ยนอาวุธอย่างรวดเร็ว ถ้าเกราะนี้ถูกทำลายจะเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา










The Knight(Heaven's Wheel Armor) เป็นชุดเกราะที่มีปีกเหล็ก 4 ปีกติดที่หลัง มีพลังทางเวทย์ที่สามารถเสกดาบได้เป็นจำนวนมาก ใช้สู้กับคู่ต่อสู้หลายๆคน เอลซ่าสามารถบินได้ในระยะสั้นๆหากสวมชุดเกราะนี้ อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบเวทคู่










Black Wing Armor(เกราะปีกทมิฬ):เป็นชุดเกราะมีปีกค้างคาวติดที่หลัง คุณสมบัติพิเศษคือเพิ่มพลังการโจมตี เอลซ่าสามารถบินได้ในระยะสั้นๆหากสวมชุดเกราะนี้ อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบสั้นแบบเกราะทมิฬ









Flame Emperor's Armor(เกราะเทพอัคนี)เป็นชุดเกราะที่มีรูปลักษณ์คล้ายๆมังกรสีแดงดำ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถกันการโจมตีประเภทไฟได้ 50% และสามารถใช้ไฟโจมตีได้เช่นกัน อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบเพลิง













Purgatory Armor(เกราะโลกันตร์)เป็นหนึ่งในชุดเกราะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของเอลซ่า รูปลักษณ์คล้ายนักรบปีศาจสีดำ พลังและความสามารถที่แท้จริงของชุดเกราะนี้ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่คร่าวๆคือเน้นไปทางทำลายล้าง อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ กระบองหนามเหล็กยักษ์ (เอลซ่าเคยกล่าวถึงอานุภาพชุดเกราะนี้ไว้ว่า "ไม่เคยมีศัตรูคนไหนรอดชีวิต เมื่อได้เห็นชุดเกราะนี้"







Flight Armor(เกราะพุ่งทะยาน) เป็นชุดเกราะที่ออกสไตล์นักรบเสือชีตาร์ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถเพิ่มความเร็วในการต่อสู้ ทั้งการเคลื่อนไหวและการโจมตี อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบยาวคู่












Robe of Yūenเป็นชุดเกราะที่มีลักษณะสไตล์ซามูไรสีม่วง คุณสมบัติพิเศษคือเป็นชุดเกราะที่สามารถยืดหยุ่นได้(สามารถกลับรูปร่างเดิมได้ แม้จะถูกเวทมนตร์ประเภทควบคุมสิ่งของดัดรูปร่างไปจากเดิมก็ตาม) อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ หอกยาว เอาชนะมิดไนต์ จากโอราเชี่ยนเซสได้โดยใช้เกราะนี้














Armadura Fairy(เกราะภูต)เป็นชุดเกราะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของเอลซ่า เป็นเกราะที่แบกรับนามของแฟรี่เทล และเป็นเกราะที่แฟรี่เทลภาคภูมิใจ ใช้สู้ในครั้งแรกตอนศึกที่เอดราสเป็นเกราะสุดท้ายโดยปะทะกับเอลซ่า ไนท์วอคเกอร์ มีความสูสีกับเรเวนมาก













Sea Empress Armor(เกราะจ้าววารี): เป็นชุดเกราะรูปลักษณ์คล้ายๆกับสัตว์ทะเล คุณสมบัติพิเศษคือต้านทานการโจมตีของน้ำได้ทุกรูปแบบ แม้แต่น้ำของจูเบียก็ทำอะไรไม่ได้เลยซักนิดเดียว และสามารถใช้น้ำโจมตีได้ด้วย ใช้เอาชนะจูเบียกับริซาน่าในตอนสอบเลื่อนเป็นระดับ S





Lightning empress Armor(เกราะเทพสายฟ้า)เป็นชุดเกราะสไตล์ไปทางเทพีกรีกโบราณ คุณสมบัติพิเศษคือต้านทานสายฟ้าในระดับของลัคซัสได้ สามารถโจมตีและป้องกันด้วยสายฟ้าได้ด้วย ถักเปียที่ผมด้านหลัง อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ หอกสายฟ้า













Farewell Fairy Tail Armorเป็นชุดเกราะสไตล์นักรบศักดิ์สิทธิ์เกราะหนัก เป็นชุดเกราะเดียวที่เอลซ่าไม่ได้ใช้สำหรับต่อสู้ เอลซ่าจะใช้ต่อเมื่อทำพิธีอำลาให้กับสมาชิกในกิลด์แฟรี่เทลคนไหนก็ตามที่จำต้องออกจากกิลด์ไป อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ธงตราประจำกิลด์แฟรี่เทล













Armor of Nakagami  (เกราะนาคากามิ) : เป็นเกราะที่เอลซ่าปลดปล่อยต้นกำเนิดพลังเวทย์ที่สอง เพราะจำนวนเวทย์มหาศาลที่ Armor of Nakagami ดูดกลืนใน 10 ปี ไม่เคยมีใครสวมได้ ถึงแบบนั้นผู้ที่สวมใส่มันก็ได้แหกกฎแห่งเวทและดาบไร้เทียมทาน












กราะแห่งจิตใจ : เป็นเกราะที่รวมพลังเวทย์ไว้ที่ดาบเบนิซากุระเพียงอย่างเดียว เธอจะสวมชุดนี้ก็ต่อเมื่อไม่มีเกราะใดๆที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เเล้ว ใช้ครั้งแรกในตอนที่ต่อสู้กันที่หอคอยสวรรค์และใช้เรื่อยมา สาเหตุที่เกราะนี้เป็นเพียงผ้าบางๆที่พันรอบหน้าอกและกางเกงลักษณะคล้ายซามูไรนั้น เป็นเพราะเธอต้องใช้พลังเวทย์ทั้งหมดไปที่ดาบนั่นเอง










         เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากที่ได้เห็นเกราะต่างๆ ของเอลซ่า สการ์เล็ต หรือฉายา ไททาเนีย ชุดเกราะและอาวุธของเธอนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะครับ แต่ยังมีอีก มหาศาล !!! ซึ่งถูกเก็บไว้ที่หอพักหญิงของกิลล์แฟรี่เทล โดยไม่ได้มีแค่เกราะที่ใช้ในการรบเท่านั้น หากแต่ยังมีเกราะที่ใช้ในวันธรรมดาๆทั่วไปอีก อาทิ เกราะบันนี่เกิร์ล เกราะยั่วยวน เกราะชุดแต่งงาน เป็นต้น ซึ่งเธอจะเลือกมาใช้ตามงานและโอกาสต่างๆที่เหมาะสม 



แหล่งข้อมูล : https://board.postjung.com/646568.html

                    http://www.gameforest.in.th/news/view/1589

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น